“Infinity Funds” ...พลังควบคุมจักรวาล ‘ผลตอบแทน’ (5)

>>

Time Stone- กลุ่ม “กองทุนประหยัดภาษี”


การเสาะแสวงหา Infinity Fundsกลุ่มกองทุนที่ควบคุมจักรวาล ผลตอบแทน ผ่านไปแล้ว 4 อัญมณีSoul Stone-กองทุนอสังหาริมทรัพย์” , Reality Stone-กองทุนผสม” ,Space Stone-กองทุน FIF และPower Stone-กองหุ้นหุ้น”


ครั้งนี้เป็นอัญมณีเม็ดที่ 5 Time Stone” พลังควบคุมเวลาในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ,เพิ่มและลดผลตอบแทน และสามารถเดินทางในมิติเวลาได้ทุกแห่ง นั่นก็คือ กลุ่ม “กองทุนประหยัดภาษี (Tax Fund)” นั่นเอง


ถือเป็นกลุ่มกองทุนที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาโดยมี วัตถุประสงค์เฉพาะ ซึ่งแต่กต่างกันไปขึ้นกับความตั้งใจของภาครัฐ ปัจจุบันก็มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่

  • กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund : RMF)’ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีการออมเพื่อเกษียณของตัวเอง จะได้ไม่เป็นภาระรัฐที่ต้องมาดูแลในอนาคต
  • กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund : LTF)’ เพื่อส่งเสริมการเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันในตลาดหุ้นไทยเพื่อเป็นการสร้างเถียรภาพให้กับตลาดทุนไทย โดยให้นักลงทุนทั่วไปเข้ามาลงทุนผ่าน ‘กอง LTF’ แทน ซึ่งจะหมดอายุขัยลง สิ้นปี2019’ นี้แล้ว


“เพื่อจูงใจให้ผู้ลงทุนเข้ามาลงทุนในกลุ่ม ‘กองทุนประหยัดภาษี' ดังกล่าว ภาครัฐจึงให้ ประโยชน์ทางภาษี เอาไว้ โดยกำหนดเป็น ‘เงื่อนไข’ การลงทุนขึ้นมา ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องลงทุนให้เป็นไปตามเงื่อนไขจึงจะได้รับประโยชน์ภาษีนั้นไป หากผิดเงื่อนไขก็ต้องคืนประโยชน์ภาษีที่ใช้ไปให้กับรัฐ (ซึ่งแนะนำว่า...อย่าพยายามทำผิดเงื่อนไขเลย)”


สำหรับกองทุนกลุ่มนี้ คงไม่ได้เหมาะกับผู้ลงทุนไปทุกคนแน่นอน แต่โฟกัสเฉพาะกลุ่มผู้ลงทุนที่มี ภาระภาษี ต้องเสียเป็นสำคัญ มากน้อยขึ้นกับฐานภาษีของแต่ละคนเป็นสำคัญ ดังนั้น ถ้าคุณไม่มีภาษีบุคคลธรรมดาต้องเสีย ก็ข้ามอัญมณีเม็ดนี้ไปได้เลย เพราะพลังของมันไม่ได้เกิดประโยชน์กับคุณ อีกทั้งยังจะส่งผลกระทบในเชิงลบได้อีกด้วย

 

“แต้มต่อ”...จากภาษีที่ประหยัดได้


Infinity Fundกลุ่มกองทุนประหยัดภาษีนี้ ได้พลังเป็น แต้มต่อของผลตอบแทนตาม ฐานภาษี ของแต่ละคนเลย


ตัวอย่าง
คุณควักกระเป๋าจ่ายลงทุนในกลุ่ม ‘กองทุนประหยัดภาษี’ 10,000 บาท

  • ฐานภาษี 5%  >>>ประหยัดภาษีไป 500 บาท>>>คิดเป็นผลตอบแทน 5%
  • ฐานภาษี 10%>>>ประหยัดภาษี 1,000 บาท>>>คิดเป็นผลตอบแทน 10%
  • ฐานภาษี 15%>>>ประหยัดภาษี 1,500 บาท>>>คิดเป็นผลตอบแทน 15%
  • ฐานภาษี 20%>>>ประหยัดภาษี 2,000 บาท>>>คิดเป็นผลตอบแทน 20%
  • ฐานภาษี 25%>>>ประหยัดภาษี 2,500 บาท>>>คิดเป็นผลตอบแทน 25%
  • ฐานภาษี 30%>>>ประหยัดภาษี 3,000 บาท>>>คิดเป็นผลตอบแทน 30%
  • ฐานภาษี 35%>>>ประหยัดภาษี 3,500 บาท>>>คิดเป็นผลตอบแทน 35%


“นี่คือแต้มต่อทางภาษีที่คุณจะได้รับตั้งแต่ควักเงินลงทุนเลย ถือเป็นผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่จะบวกเข้าไป นอกเหนือจากผลตอบแทนที่กองทุนประหยัดภาษีทำได้นั่นเอง ‘Infinity Fund’ ที่มีพลังของ ‘Time Stone’ นี้ จึงสามารถนำพาการลงทุนของคุณผ่านกาลเวลาเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้กับคุณได้ เต็มศักยภาพ สุดๆ ไปเลย”

แต่มีข้อจำกัดไว้ให้ลงทุนได้ ไม่เกิน 15% ของรายได้ และต้อง ไม่เกิน 500,000 บาท/ปี ทั้งในส่วนของ กอง LTF’ และ กอง RMF’ โดยกอง RMF ต้องนับรวมกับการออมเพื่อเกษียณที่รัฐให้ประโยชน์ทางภาษีไว้ด้วยเช่นกัน

         
“หลับตาจินตนาการดูเอาล่ะกัน จะมีการลงทุนอะไร ที่ลงทุนปุ๊บ เสมือนหนึ่งได้ผลตอบแทน 5-35% ทันที แน่ๆ แค่เป็นไปตามเงื่อนไข แล้วจะไม่แปลกใจว่าคนที่อยู่ในฐานภาษีสูงๆ 25% ขึ้นไป (เงินได้สุทธิ 1 ล้านบาทต่อปีขึ้นไป) ส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์กันเต็มที่น่าจะทุกคน ในขณะที่คนที่ฐานภาษีต่ำ 5-10% (เงินได้สุทธิน้อยกว่า 5 แสนบาทต่อปีลงไป) อาจจะยังไม่ได้เข้ามาใช้ประโยชน์ตรงนี้มากนัก”

 


รูปแบบ และ ผลตอบแทน ของ...กลุ่ม “กองทุนประหยัดภาษี”


แม้จะมี แต้มต่อ ทางภาษีอยู่ก็ตาม แต่กลุ่ม กองทุนประหยัดภาษี นี้ก็มีพื้นฐานการลงทุนมากจากกองทุนปกติทั่วไป ดังนั้น ผลตอบแทนหลักที่นักลงทุนพึงแสะแสวงหาจึงควรมาจาก ผลตอบแทนปกติ จากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ตามแต่นโยบายการลงทุนเป็นสำคัญ


อย่างที่บอกว่าพลังของ ‘Time Stone’ นั้น เป็นพลังช่วยเสริมเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนหลักให้เต็มศักยภาพเท่านั้น แต่ถ้าใช้ผิดวิธีไปเอาประโยชน์ทางภาษีเป็นหลัก โดยไม่สนใจการเลือกกองทุนที่มีผลงานดีสม่ำเสมอในระยะยาว ก็อาจส่ง ผลลบ ต่อการลงทุนของคุณได้เช่นกัน


ตัวอย่าง
: นาย A และนาย B อยู่ฐานภาษีเดียวกัน 10% นาย A ไม่ใส่ใจถือว่าได้พลังจากอัญมณีมาเป็นแต้มต่อแล้ว ลงทุน ‘กองประหยัดภาษี’ A ส่วนนาย B ยังให้ความสำคัญกับผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นหลัก เลือกกอง B


สิ้นปีกอง A ผลตอบแทนติดลบ 10% นาย A เท่ากับ เสมอตัว ในขณะที่กอง B ผลตอบแทน 10% เท่ากับนาย B ได้ผลตอบแทนเบ็ดเสร็จรวมแต้มต่อทางภาษีอีก 10% รวมเป็น 20% ทิ้งห่างอย่างเหนือชั้นไปเลย


เพราะฉะนั้นอย่าละเลยและให้ความสำคัญในการเลือก กองทุนประหยัดภาษี เพื่อลงทุนอย่างเด็ดขาด ปัจจุบันแบ่งได้ 2 รูปแบบ คือ

  • กอง LTF’ มีนโยบายลงทุนในหุ้น ไม่น้อยกว่า 65%’ ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ซึ่งในกลุ่มนี้ก็สามารถแบ่งย่อยได้ตามกลุ่ม ‘Power Stone-กองทุนหุ้น ปกติทั่วไปนั่นเอง เพียงแต่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่น้อยกว่ากองหุ้นปกติทั่วไปที่ลงกัน ไม่น้อยกว่า 80%'

  • กอง RMF’ มีนโยบายลงทุนที่หลากหลายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการลงทุนเพื่อเป้าหมายเกษียณในระยะยาว ครอบคลุมทั้ง หุ้น ,‘ตราสารหนี้’ ,’ผสมรวมทั้งการลงทุนใน ต่างประเทศ ด้วย เรียกว่าเหมือนกองทุนรวมปกติทั่วไป แต่เพิ่มเติมมาคือเงื่อนไขการลงทุนและประโยชน์ทางภาษีเท่านั้นเอง


“ในขณะที่ กอง LTF’ ก็ชัดเจนลงทุนในหุ้น ความเสี่ยงและผลตอบแทนก็สไตล์หุ้นแม้จะผสมพอร์ตกอง LTF อย่างไรก็ตาม ส่วน กอง RMF’ มีนโยบายหลากหลาย ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อเป้าหมายในระยะยาวได้ดีขึ้น สามารถโยกสับเปลี่ยนไปมาระหว่างกอง RMF ต่างนโยบายได้เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะการณ์ลงทุนในขณะนั้นๆ ได้อีกด้วย”

 

Tax Fund-รูปแบบใหม่”...คาดตัวแทน กอง LTF’

         
เป็นที่ทราบกันแล้วว่า กอง LTF’ รูปแบบเดิมจะหมดอายุขัยลงใน สิ้นปี 2019’ นี้แล้ว ภาครัฐเองก็มีเหตุผลเช่นกัน นี่ก็ต่อมาให้แล้วตั้ง 3 ปี จากเดิมที่หมดอายุไปเรียบร้อยแล้วใน ปี2016’ โดยเพิ่มเงื่อนไขการลงทุนให้ยาวขึ้นเป็น ‘7 ปี ปิทิน

         
ในครั้งนี้ถ้าจะหมดอายุขัยจริงๆ แล้ว แต่ทาง สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)’ ก็มีการนำเสนอรูปแบบของกองทุนประหยัดภาษี รูปแบบใหม่ที่จะมาแทนกองทุน LTF เดิมให้ภาครัฐไปพิจารณาแล้ว โดยเท่าที่มีการเผยแพร่และติดตามกันมานั้น ได้มีการแก้ไข จุดอ่อน ในหลายๆ เรื่องของ ‘กอง LTF’ เดิมเอาไว้

           
ทั้งระยะเวลาลงทุนที่นานขึ้นเป็น ’10 ปี รวมถึงการใช้ประโยชน์ภาษีในแนวทางใหม่ คือ นำเงินลงทุนไป ‘หักภาษี’ ได้ 20% โดยลดหย่อนได้ สูงสุด 100,000 บาท/ปี แต่ต้องไม่เกินภาระภาษีที่ต้องจ่าย

           
“ถ้าคุณลงทุน 10,000 บาท ก็ลดหย่อนภาษีได้ 2,000 บาท ถ้าคุณลงทุน 500,000 บาท ก็ลดหย่อนได้ 100,000 บาท ดังนั้นถ้าคุณมีภาระภาษีที่ต้องเสีย 10,000 บาท ลงทุนใน Tax Fund รูปแบบใหม่ 50,000 บาท ลดหย่อนได้ 10,000 บาท ก็ไม่ต้องเสียภาษีแล้ว เรียกว่าใช้สิทธิกันได้ดียิ่งขึ้นสำหรับคนที่ฐานภาษีระดับกลาง-ล่างลงมา ส่วนคนที่อยู่ฐานภาษีกลาง-สูงก็จะจำกัดให้ใช้สิทธิลดหย่อนได้เต็มที่แค่ 100,000 บาท เท่านั้น ส่วนจะได้คลอดออกมาหรือไม่นั้น ยังต้องติดตามดูกันต่อไป”

         
หากคุณเป็นหนึ่งในผู้เสียภาษีเงินได้แล้วล่ะก็ “Infinity Funds” กลุ่ม ‘กองทุนประหยัดภาษี’ นี้ จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับคุณได้เป็นอย่างดี ด้วย ‘แต้มต่อ’ ทางภาษีที่ภาครัฐมีมาให้นั่นเอง โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อเกษียณของคุณผ่าน ‘กอง RMF’ นั้น ผลตอบแทนส่วนเพิ่มอีก 5-35% นั้นจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายเกษียณของคุณได้เร็วยิ่งขึ้นไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว