ระหว่างวันที่ 11 เมษายน ถึง 19 พฤษภาคม ประชาชนชาวอินเดียนับร้อยล้านคนได้ลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ ในการโหวตเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร หรือ Lok Sabha (โลกสภา) โดยมีจำนวนผู้มาใช้สิทธ์มากถึง 67% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ
Lok Sabha ของอินเดียประกอบไปด้วยจำนวนที่นั่งของสมาชิกผู้แทนราษฏร 545 เสียง ซึ่งหลังจากมีการเริ่มนับคะแนนเมื่อเวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นพบว่าพรรคภารตียชนตา (BJP) ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี มีคะแนนนำโด่งเหนือพรรคคู่แข่งถึง 349 เสียง
( นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี )
แม้ว่าผลการนับคะแนนจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยคาดว่าจะมีการประกาศผลการเลือกตั้งครบทุกเขตในช่วงค่ำแต่ชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีโมดีจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้และนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัยอย่างแน่นอน
สอดคล้องกับเอ็กซิตโพลก่อนหน้านี้ที่คาดหมายว่า นายกโมดีจะได้รับคะแนนเสียงส่วนมากและชนะการเลือกตั้ง
แม้ว่าการนับคะแนนจะยังไม่เสร็จสิ้นในทุกเขต แต่ด้วยคะแนนเสียงที่มากกว่า 300 เสียง นับว่าเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2014 ที่พรรคBJP ได้คะแนนเสียงในสภาอยู่ที่ 282 เสียง ส่งผลให้กลายรัฐบาลพรรคBJP จะกลายเป็นพรรคที่มีเสียงสนับสนุนแข็งแกร่งที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
โมดีเวฟ (Modi Wave)
กระแสความนิยมในตัวนายกโมดีเริ่มกลับมาอย่างเด่นชัดในช่วงปีที่ผ่านมา จากการที่รัฐบาลเของเขาดำเนินนโยบายเอาใจคนยากจนในชนบท ทั้งโครงการประกันสุขภาพโมดีแคร์ รวมถึงโครงการประชานิยมอีกหลายรูปแบบ ขณะเดียวกันกระแสชาตินิยมในหมู่คนอินเดียในช่วงที่มีเหตุปะทะกับปากีสถานเหนือพรมแดนแคชเมียร์