“บลจ.กรุงไทย”...เผยนักลงทุนหวั่นสงครามการค้ายืดเยื้อ-แห่พักเงิน ‘กองตราสารหนี้’

>>

“บลจ.กรุงไทย”...เตรียมส่ง 2 “กองตราสารหนี้” ลุยตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ขายถึง 4 มิ.ย. ชูผลตอบแทน 3 เดือน 1.6% ต่อปี หลังพบนักลงทุนหวั่นสงครามการค้ายืดเยื้อ แห่พักเงิน กองตราสารหนี้


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ 2 กองทุน ให้นักลงทุนได้เลือกตามความเหมาะสม ได้แก่ 

  • ‘กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอ227 (KTFF227)’ อายุโครงการ 3 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80% คาดผลตอบแทนประมาณ 1.60% ต่อปี 

  • ‘กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารภาครัฐไทย 7 (KT-THAIGOV7)’ อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐในประเทศไม่น้อยกว่า 80% คาดผลตอบแทนประมาณ 1.40% ต่อปี


“โดยเสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 4 มิ.ย. 19 เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท”

 
( นางชวินดา หาญรัตนกูล )

        
นางชวินดา ยังกล่าวอีกว่า อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ อายุคงเหลือต่ำกว่า 4 ปี อัตราผลตอบแทนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายของนักลงทุนเพื่อปรับพอร์ตไปลงทุนในตราสารระยะยาว ส่งผลให้ตราสารหนี้อายุคงเหลือมากกว่า 4 ปีขึ้นไป อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ ตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ จากความกังวลเรื่องสงครามการค้า การชะลอตัวของตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย. ที่ออกมาติดลบต่อเนื่องจากเดือนมี.ค. ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยนโยบายตลอดปี19


“ส่วนแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ มีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี 6 เดือน จากการที่นักลงทุนปรับไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่มีความรุนแรงมากขึ้นจากการสั่งห้ามบริษัทในสหรัฐทำธุรกิจกับ ‘HUAWEI’ โดยความขัดแย้งดังกล่าวอาจจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐด้วย 


โดยส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 4 bps. มาอยู่ที่ 2.16% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 5 bps. มาอยู่ที่ 2.12% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 7 bps. มาอยู่ที่ 2.32% ต่อปี”