“บลจ.กสิกรไทย”...ชูกลยุทธ์ ‘Diversification’ รับมือความผันผวน

>>

“บลจ.กสิกรไทย”...แนะ 5 กองทุนเด่น เสริมพลังให้พอร์ตการลงทุน เน้นกลยุทธ์ Diversification’ รับมือความผันผวน


นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปัจจุบันมีกองทุนรวมให้เลือกมากมาย หลากหลายนโยบายการลงทุนตามระดับความเสี่ยง ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้ยังมีความไม่แน่นอน ไม่เหมาะต่อการจับจังหวะการลงทุน บริษัทเคยเสนอแนวคิดการลงทุนแบบ 4D ที่ประกอบด้วย

  • ‘การกระจายความเสี่ยง (Diversification)’
  • ‘การสร้างรายได้สม่ำเสมอ (Defensive)’
  • ‘การลงทุนในระยะยาว (Duration)’
  • ‘การลงทุนอย่างมีวินัย (Discipline)’


“บริษัทได้แนะนำให้กับลูกค้านำไปปรับใช้เพื่อรับมือกับความผันผวนในปีนี้ โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยลดความผันผวนเพื่อให้พอร์ตลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้นั่น ก็คือ ‘Diversification’ ที่เน้นกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย”


 
( นายสุรเดช เกียรติธนากร )


นายสุรเดช ยังกล่าวอีกว่า บริษัทจึงได้คัดสรรกองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในแต่ละกลุ่มตามการจัดอันดับของ Morningstar อีกทั้งยังสามารถรับความผันผวนได้ในทุกภาวะตลาด เพื่อเสริมพลังให้กับพอร์ตการลงทุนด้วย 5 กองทุนเด่น ได้แก่

  • ‘กองทุนเปิดเค เอสเอฟ พลัส (K-SFPLUS)’ มีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในและต่างประเทศ จึงช่วยลดความผันผวนให้กับพอร์ตลงทุนในช่วงที่สินทรัพย์เสี่ยงมีความผันผวนมากขึ้น ทำให้พอร์ตลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ
  • ‘กองทุนเปิดเค แพลน 2 (K-PLAN2)’
  • ‘กองทุนเปิดเค แพลน 3 (K-PLAN3)’


“กอง K-PLAN2 และ K-PLAN3 เป็นกองทุนผสมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น และกระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset) ทั้งในและต่างประเทศ ทั้ง 2 กอง มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30% และ 55% ของ NAV ตามลำดับ จึงช่วยลดการขาดทุนจากตลาดใดตลาดหนึ่ง เนื่องจากมีการปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ให้เหมาะสมกับทุกสภาวะตลาด”

  • ‘กองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม (K-GINCOME)’ มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก ‘JPMorg​an Investment Funds – Global Income Fund, Class A (mth)-EUR’ ที่กระจายลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก โดยคัดเลือกสินทรัพย์ที่จ่ายผลตอบแทนสูงทั้งในรูปดอกเบี้ยและเงินปันผล

  • ‘กองทุนเปิดเค สตาร์ หุ้นทุน (K-STAR)’ มีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี ที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว พร้อมทั้งจับจังหวะโดยปรับสัดส่วนการลงทุนเพื่อทำกำไรในระยะสั้น


นายสุรเดช ยังกล่าวอีกว่า การลงทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินจะต้องอาศัยการจัดพอร์ตลงทุนที่ดี โดยควรกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั้งเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ รวมถึงหุ้น เพื่อลดความผันผวนอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด และเป็นการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่ง 5 กองทุนเด่นจากบริษัทจัดเป็นกองทุนแนะนำในแต่ละประเภทสินทรัพย์ที่มีผลการดำเนินงานดี ติดอันดับ Morningstar อีกทั้งยังสามารถเลือกลงทุนได้ตลอดทั้งปี


“อย่างไรก็ดีบริษัทมุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานการบริหารกองทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งคำนึงถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมภายใต้ความผันผวนของตลาดด้วยเช่นกัน สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-SFPLUS, K-PLAN2, K-PLAN3, K-GINCOME และ K-STAR สามารถเริ่มลงทุนได้เพียง 500 บาท เท่านั้น”