บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่าตลาดวันนี้ฟื้นตามตลาดเพื่อนบ้าน โดยประเมินดัชนีรีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,645 – 1,650 จุด ก่อนจะสลับอ่อนตัวจากประเด็นข่าวการตกลงทางการค้าสหรัฐกับจีนที่อาจจะเลื่อนเดดไลน์ รวมถึงการที่จีนยืนยันจัดการประชุมเจรจาการค้ารอบใหม่กับสหรัฐที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 14 – 15 กุมภาพันธ์ ส่งผลให้ความกังวลปัญหาสงครามการค้าผ่อนคลายลง และหนุนต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตามความกังวลหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ประเด็นการเมืองภายในประเทศที่ไม่แน่นอน จากกระแสข่าวการยุบพรรคไทยรักษาชาติ จะเป็นแรงกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง
บล.อาร์เอชบี จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ผันผวนจากแรงขายทำกำรในระยะสั้น ประกอบกับทิศทางค่าเงินบาทไทยในระยะสั้นที่ผันผวน จากปัจจัยการเมืองในประเทศและปัจจัยต่างประเทศที่นักลงทุนให้ความสนในติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในปลายสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุน เพื่อติดตามข่าวสารต่าง ๆ
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่าดัชนีปรับตัวลงจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (บิ๊กแค็ป) หลายกลุ่ม เช่น กลุ่มสื่อสาร พลังงาน ธนาคารและขนส่ง ทำให้ดัชนีปรับตัวลง ปิดแก็ปบริเวณ 1,632 จุด แต่ดัชนียังคงไม่มีแรงรีบาวด์ที่ชัดเจน ทำให้คาดมีโอกาสปรับตัวลงต่อ มองแนวรับถัดไปที่ 1,630-1,632 จุด และระดับ 1,615 จุด หากมีหุ้นขณะนี้แนะนำลด พอร์ตหากหลุดระดับ 1,630 จุด
บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองดัชนีตลาดหุ้นอยู่ในช่วงแกว่งตัวพักฐาน โดยประเด็นกดดันยังมาจากทั้งปัจจัยในและต่างประเทศ ทั้งเรื่องสงครามการค้าและเบร็กซิทที่เข้าใกล้เส้นตายในเดือนมีนาคมเข้าไปทุกขณะ ส่วนประเด็นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ต้องดูว่าจะเกิดภาวะชัตดาวน์อีกหรือไม่ และสำหรับปัจจัยการเมืองในประเทศยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทำให้บรรยากาศการลงทุนในภาพรวมยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่หนุน โดยมองว่าหุ้นที่ยังแลกการ์ดและมีความปลอดภัย น่าจะเคลื่อนไหวได้ดีกว่า
