“บลจ.กสิกรไทย”...มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังดี ชู กองอสังหาฯสร้างรายได้สม่ำเสมอ-ช่วยกระจายความเสี่ยง ชี้ กลุ่มคอนโด ราคาเกินพื้นฐาน ราคายังไหลลงได้อีกปีหน้า

>>

นายวิทวัส อัจฉริยวนิช รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงตลาดหุ้นผันผวนและดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับต่ำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีความผันผวนไม่เท่าหุ้น ในขณะเดียวกันก็มีผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้ ในปีที่แล้วผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 7% แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบทำให้ภาพของตลาดการลงทุนผันผวนไปบ้างก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบทางลบโดยตรงกับการดำเนินการของกองทุนกลุ่มนี้ เนื่องจากมีการรบัรรู้ายได้จากสัญญาที่กำหนดรายละเอียดและเงื่อนไขที่ชัดเจน

“รวมถึงมีแผนงานที่สอดคลอ้งกับนโยบายเพื่อรักษาระดับความสามารถในการจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และเหมาะที่จะผสมเข้ามาในพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยงจากภาวะตลาดที่ผันผวน”

โดยภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ นั้น ยังคงดีอยู่ ในส่วนของ ธุรกิจอาคารสำนักงาน นั้น อุปสงค์และอุปทานยังมีเห็นได้ชัด และทิศทางอัตราค่าเช่าค่าบริการมีทิศทางขาข้ึน ส่วนการใชพื้นที่สำนักงานแบบ Co-Working Space และ Serviced Office เป็นทางเลือกใหม่แต่ไม่ได้กระทบต่อกลุ่มอาคารสำนักงานแต่ประการใด ส่วน ‘ธุรกิจค้าปลีก’ อาจจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากช๊อปป้ิงออนไลน์ที่เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ก็ต้องมีการวางแผนที่ตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคและดึงดูด ให้เข้ามาใช้บริการ
( วิทวัส อัจฉริยวนิช )

ธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า ยังคงได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ ทำให้มีความต้องการในส่วนนี้มากขึ้นในทิศทางเดียวกัน รวมถึงโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC) ด้าน ธุรกิจโรงแรม ยังมีสัญญาณที่ดีจากแนวโน้มความต้องการใช้บริการห้องพักที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อวันจากห้องที่ขายจริง (ADR) และรายได้เฉลี่ยต่อ ห้องพักที่มีทั้งหมด (RevPar) มีทิศทางปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ในขณะที่อัตราการเข้าพักยังคงอยู่ระดับใกล้เคียงเดิม โดยกลุ่มธุรกิจนี้อาจได้รับผลในเชิงลบจากบริการห้องพักแบบเช่ารายวันและบริการแบ่งปันห้องพักออนไลน์ (Airbnb) ที่เข้ามาแข่งขันและทดแทน

ธุรกิจเซอร์วิสอพารท์เม้นท์ มีปัจจัยบวกจากบริษัทพัฒนาที่ดินบางแห่งเริ่มหันเข้ามาในธุรกิจน้ี ทำให้มีแนวโนม้ที่จะมีการแข่งขันมากขึ้น ส่วน ธุรกิจที่อยู่อาศัย มีปัจจัยลบจากอุปสงค์และอุปทานมีทิศทางที่ชะลอตัวสืบเนืองจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มาตราการควบคุมสินเชื่อ และภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

“จะมีแต่ธุรกิจคอนโดมีเนียมเท่านั้น ที่ดูไม่ค่อยดีนัก ซัพพลายมีมากกว่าความต้องการจริง (Real Demand) แต่ช่วงที่ผ่านมาราคาปรับตัวขึ้นมาสูงจนเกินปัจจัยพื้นฐาน จึงเป็นกลุ่มที่ดูแล้วยังไม่น่าสนใจและมีโอกาสที่จะเห็นราคาคอนโดปรับตัวลงอีกในปีหน้า”

นายวิทวัส ยังกล่าวอีกว่า บริษัทเองก็มีแผนที่จะจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองใหม่เพิ่มเติมเช่นกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาอยู่ นอกจากนี้บริษัทเองก็มีแผนที่จะขอใบอนุญาตเป็นผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager) ในอนาคตด้วยเช่นกัน เพราะเรามีทีมงานที่มีความพร้อมและเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน

“สิ่งสำคัญประการหนึ่งในการบริหารกองทุนอสังหาริมทรัพย์ คือ ควรจะต้องดูแลอสังหาริมทรัพย์ให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ เพราะหากละเลยในเรื่องนี้ในระยะยาวจะไม่ส่งผลดีต่อกองทุนเอง เพราะหากอสังหาริมทรัพย์เสื่อมโทรมลง ผู้เช่าเก่าก็คงไม่อยากอยู่ ผู้เช่าใหม่ก็คงไม่เข้ามาเช่า ดังนั้นก็คงต้องหาสมดุลระหว่างการจ่ายปันผลควบคู่ไปกับการดูแลทรัพย์สินด้วยเช่นกัน เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้กับผู้ถือหน่วยนั่นเอง”

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kasikornasset.com/th