“บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” หนึ่งในบลจ.ลูกแบงก์ที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากที่ลงสู่สมรภูมิกองทุนในปี2011 มีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) 6,168 ล้านบาท ผ่านมา 7 ปี มี AUM ณ สิ้นปี2018 อยู่ที่ 66,192 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสะสม (CAGR) 40.36% ต่อปี เลยทีเดียว การก้าวย่างจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร เมื่อทีมงาน “Wealthythai” มีโอกาสได้พบกับผู้บริหารหนุ่มใหญ่ไฟแรงอย่าง “พี่เป๊ก-มนรัฐ ผดุงสิทธิ์” กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด จึงไม่พลาดที่จะเก็บเอาข่าวคราวความเคลื่อนไหวมาฝากกันอีกเช่นเคย
Wealthythai : เงียบหายไปนาน ปีนี้ “บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ตั้งเป้าการเติบโตไว้อย่างไรบ้าง
มนรัฐ : ปีนี้ เราคงไม่ตั้งเป้าเติบโตเป็นแสนล้านบาท แต่ขอโฟกัสการ ‘เติบโตอย่างมีคุณภาพ’ เพิ่มขึ้น 1-2 หมื่นล้านบาท ก็โอเคแล้ว จากปัจจุบันที่มี AUM ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท การเติบโตของเรามองว่าลูกค้าจะได้ประโยชน์อะไรด้วย ดังนั้นเพื่อรองรับการเติบโตอย่างมีคุณภาพโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เราก็ต้องมีความพร้อมด้วยเช่นกัน ก็ทำควบคู่กันไป
Wealthythai : ในแง่ของโพรดักต์เองเราถือว่ามีครบหรือยัง จะมีการนำเสนอโพรดักต์ใหม่ๆ ออกมาอีกหรือไม่ในปีนี้
มนรัฐ : ถ้าพูดถึงภาพรวมของโพรดักต์กองทุนรวม บริษัทมีครบถ้วน ‘เพียงพอ’ ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนที่จะนำไปใช้จัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation) เพื่อเป้าหมายการเงินของตัวเองได้แล้ว แต่ก็มีแพลนที่จะนำโพรดักต์ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมเช่นกัน ทั้งในส่วนที่เป็นความถนัดของบริษัทเองในส่วนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกองทุนที่ยังไมมีในอุตสาหกรรมกองทุนในปัจจุบัน แต่ขออุบไว้ก่อน เดี๋ยวบลจ.อื่นรู้ (หัวเราะชอบใจ)...แต่ถ้าเปิดตัวจะบอกแน่นอน
“เราไม่ต้องมีจำนวนกองทุนเยอะ มีให้ครบ ให้เพียงพอสำหรับตอบโจทย์นักลงทุนก็โอเคแล้ว ที่สำคัญกองทุนที่ตั้งมาต้องอยู่ได้นาน ไม่ใช่ตั้งมาแป่บเดียวแล้วก็ดับแบบนั้นเราไม่ทำ นักลงทุนต้องลงทุนกับกองทุนของเราได้ตลอดไปในลักษณะนั้นเราถึงจะทำออกมา”
Wealthythai : ทำไม “กลุ่ม LH” จึงจับมือเป็นพันธมิตรกับ “INVESCO” ในครั้งนี้ มีเป้าหมายอะไร
มนรัฐ : การเพิ่มศักยภาพในการลงทุนสามารถทำได้โดย ‘การจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation)’ ซึ่งนักลงทุนยังมีความรู้ค่อนข้างน้อย สถาบันในประเทศเองที่มีองค์ความรู้ด้านนี้จริงจังก็มีไม่มาก ทาง “INVESCO Asset Management” มีองค์ความรู้ในเรื่อง Asset Allocation ที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วนจริงๆ เมื่อ 3 ปีก่อนเราสนใจออก ‘กองทุนที่ไปลงทุนในต่างประเทศ (FIF)’ ก็ติดต่อพันธมิตรไปหลายรายและมีบางรายมาหาเรา เรามี ‘กองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล ไลฟ์สไตล์ อิควิตี้ (LHGLIFE-E)’ ที่ทำร่วมกับ INVESCO ผ่านกองทุนหลักชื่อ ‘Invesco Global Leisure Fund’
“เราก็ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากทาง INVESCO มาตลอด ในช่วง 2 ปี มีการติดต่อกัน 40 ครั้ง ในขณะที่ที่อื่นอาจจะน้อยกว่า นี่ไม่ใช่แค่เดินมาทำกองทุนร่วมกันเสร็จแล้วก็ไป แต่มีความต่อเนื่องและด้วยองค์ความรู้ที่ INVESCO มีก็ตอบโจทย์เรา เมื่อเรามองหาพันธมิตรจึงไม่แปลกใจที่คำตอบจะเป็น INVESCO เมื่อเขาตัดสินใจมาเป็นพันธมิตรกับเราแล้วเขาคงไม่เอาชื่อตัวเองมาทิ้งแน่นอน”
“INVESCO” มีสินทรัพย์ที่บริหาร (AUM) อยู่ที่ 954.8 ล้านดอลลาร์ และมีสาขาในประเทศต่างๆ รวม 25 ประเทศ มีประวัติอันยาวนานในการบริหารการลงทุนกว่า 50 ปี เป็นบลจ.ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่อง ‘Multi-asset Management’ ภายใต้สมมติฐานของ Capital Market Assumptions“เราจะมีการตั้ง Asset Allocation Committee ที่ประกอบด้วยทีมงานจาก 3 ฝ่ายขึ้นมา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาโพรดักต์ร่วมกัน โดยโดยเฉพาะ ‘Portfolio Solution’ ที่ทาง INVESCO จะถ่ายทอดเทคโนโลยีทางด้านการลงทุนมาสู่ผลิตภัณฑ์การลงทุนของ LH Fund และส่งต่อไปยังนักลงทุนผ่านคำแนะนำการลงทุนของ LH BANK เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าของ ‘กลุ่ม LH’ นั่นเอง ในเบื้องต้นก็จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า High Net Worth ก่อน แต่ในอนาคตก็สามารถพัฒนาโพรดักต์สู่รูปแบบกองทุนรวมเพื่อให้นักลงทุนทั่วไปได้ลงทุนได้เช่นกัน”
ส่วนอีกแผนงานของบริษัท มนรัฐ ทิ้งทายว่า คือการเพิ่มสัดส่วนการขายให้มีความ ‘สมดุล’ ระหว่างการขายผ่านแม่และขายผ่านเราเองรวมถึงตัวแทนขายต่างๆ ให้มาอยู่ที่ 50-50 ในอนาคตอันใกล้นี้ แม้เราจะมีแบงก์เป็นแม่ แต่ก็ต้องยืนให้ได้ด้วยตัวเองด้วยเช่นกัน