Hightlight

• บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT สวนกระแสตลาดวัสดุก่อสร้างเข้าสู่โลว์ซีซั่นในไตรมาส 3 สบช่องเป็นจังหวะเร่งเดินเครื่องจักรผลิตสินเค้าเต็มที่ เพื่อเพิ่มปริมาณสต๊อกสินค้ารอการขายให้มากขึ้น
• รองรับความต้องการซื้อสินค้าที่ดีอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าเพิ่มระดับสต๊อกเฉลี่ยเป็น 30 วัน จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกิน 20 วัน
• มั่นใจแนวโน้มการดำเนินงานปีนี้เติบโตแรงอย่างต่อเนื่อง        

 

 

 

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยจะใช้โอกาสในไตรมาส 3 นี้ ที่เป็นช่วงโลว์ซีซั่นหรือช่วงนอกฤดูการขายของสินค้าวัสดุก่อสร้าง เร่งเดินเครื่องจักรในทุกไลน์การผลิตเพื่อผลิตสินค้าในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มระบบหลังคา กลุ่มไม้สังเคราะห์ และกลุ่มอิฐมวลเบา โดยมีเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มระดับสต๊อกสินค้าให้มีปริมาณเพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและบริหารจัดการด้านการขนส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

จากปัจจุบันที่มีปริมาณสต๊อกรอการขายทุกผลิตภัณฑ์เฉลี่ยไม่เกิน 20 วัน จะเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 30 วัน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ไฮซีซั่นหรือฤดูการขายสินค้าวัสดุก่อสร้างในช่วงปลายปีที่จะมาถึง นอกจากนี้บริษัทฯ จะพิจารณาขยายการลงทุนติดตั้งระบบโรบอทเพิ่มเติมภายในโรงงานสระบุรีจำนวน 50 ตัว ภายใน 5 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มศักยภาพและความคล่องตัวในกระบวนการผลิตส่วนต่างๆ หลังประสบความสำเร็จในการติดตั้งโรบอทในส่วนการผลิตครอบสันโค้งกระเบื้องหลังคา ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของ DRT ให้ดียิ่งขึ้น

 

ปัจจัยที่บริษัทฯ ต้องเร่งการผลิตเพื่อเตรียมความพร้อมด้านสินค้ารองรับการขาย เนื่องจากภาพรวมความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างภายใต้แบรนด์ตราเพชรในไตรมาส 3/62 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดคำสั่งซื้อสินค้าที่รอส่งมอบผ่านให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) กลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยและตลาดส่งออกมีอัตราการเติบโตได้ดี  

 

“ในไตรมาส 3/62 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของสินค้าวัสดุก่อสร้าง จึงใช้ช่วงเวลานี้ซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร ทำให้อัตราการเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าของเราเฉลี่ยอยู่ที่ 70% แต่ในปีนี้เราคงต้องเร่งเดินเครื่องจักรอย่างเต็มที่ เพื่อผลิตสินค้าไว้รองรับ รวมถึงเพิ่มที่ในการจัดเก็บสินค้า เพื่อสามารถบริหารจัดการสต๊อกได้ดียิ่งขึ้น” นายสาธิตกล่าว

 

ทั้งนี้ความสำเร็จดังกล่าว บริษัทมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันภาพรวมผลการดำเนินงานเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ โดยบริษัทฯ ยังคงตอกย้ำจุดแข็งด้านความหลากหลายของสินค้าภายใต้แบรนด์ตราเพชร ภายใต้แนวคิดสวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภครับรู้ว่าตราเพชร มีสินค้าวัสดุก่อสร้างที่สามารถรองรับการก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง จึงทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในแบรนด์และคุณภาพจนเกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง