“Infinity Funds” ...พลังควบคุมจักรวาล ‘ผลตอบแทน’ ( 3 )

>>

Space Stone-กลุ่ม “กองทุนที่ไปลงทุนต่างประเทศ (FIF)


เพราะพลังแห่ง Infinity Fundsเพียงเม็ดใดเม็ดหนึ่งนั้น ไม่อาจตอบโจทย์จักวาลผลตอบแทนได้อย่างสมบูรณ์ การไล่ล่าเพียงเม็ดหนึ่งเม็ดใดไว้ในครอบครองนั้นจึงยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ เสาะหากันไปแล้วกับ 2 อัญมณีSoul Stone-กองทุนอสังหาริมทรัพย์” และ Reality Stone-กองทุนผสม”


ครั้งนี้เราจะพามาตามหาอัญมณีเม็ดที่3 Space Stone มีพลังในการเปิดประตูมิติผู้ใช้สามารถวาร์ปการลงทุนของตัวเองไปที่ใดก็ได้ตามต้องการ ได้แก่กลุ่ม “กองทุนที่ไปลงทุนต่างประเทศ (Foreign Investment Fund : FIF)นั่นเอง


ทุกสินทรัพย์ที่มีอยู่ในจักรวาลการลงทุน ด้วยกลุ่ม กองทุน FIF’ นี้ สามารถพาคุณก้าวข้ามขีดจำกัดของ เวลา และ สถานที่ ไปได้ดั่งใจนึก ส่งเงินติดปีกบินข้ามมิติกาลเวลาไปลงทุนกันได้เลย


“แต่จุดด้อยหนึ่ง คือ เมื่อทะลุมิติการลงทุนไปไกล การจะทำความรู้จักและเข้าใจในสินทรัพย์ปลายทางที่ลงทุนจะให้ได้ละเอียดลึกซึ่งเหมือนกับลงทุนในประเทศก็คงลำบาก และเมื่อต้องการจะวาร์ปการลงทุนกลับมาที่เดิมอีกครั้งก็ต้องใช้เวลาโดยเฉลี่ยจะมีการดีเลย์ (การรับเงินหลังจากขาย) กว่ากลุ่มกองทุนประเภทอื่นไปด้วย”

 

วาร์ป “การลงทุน” ...บุกทุกจักรวาล ผลตอบแทน


ปัจจุบันกลุ่ม กองทุน FIF’ กระจายไปไกลในทุกจักรวาลการลงทุน หากแบ่งตามประเภท สินทรัพย์ (Asset Class)’ ก็มีครอบคลุมสินทรัพย์ หลักๆ ที่รู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เป็นการขยาย Universe ของสินทรัพย์ที่ลงทุนให้กว้างไกลออกไปมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

  • หุ้น
  • ตราสารหนี้
  • ผสม
  • การลงทุนทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ,ทองคำ หรือน้ำมัน

ในแต่ละประเภทสินทรัพย์ก็มีการกระจายตัวไปในทั่วทุกพื้นที่การลงทุนทางกายภาค ได้แก่

  • ระดับภูมิภาค ทั้งที่ไปทั่วโลก ,ตลาดเกิดใหม่ ,เอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) หรืออาเซียน ให้เลือกวาร์ปกันตามถนัดเลย
  • ระดับประเทศ โฟกัสเจาะจงไปรายประเทศเลย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไปในประเทศที่นักลงทุนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะอย่างที่บอกถ้าไปไกลมาก อาจไม่มีใครวาร์ปตามไปลงทุนก็ได้ แค่ที่มีอยู่ก็ติดตามดูกันไม่ไหวอยู่แล้ว


พัฒนาการในยุคหลังในส่วนของ หุ้นก็จะขยับลงไปถึง ขนาดของหุ้น เป็น หุ้นขนาดกลาง-เล็ก ตลอดจนเป็น สไตล์ ของหุ้น เช่น หุ้นคุณค่า (Value)’ หรือ หุ้นเติบโต (Growth)’ หรือ หุ้นปันผลสูง (High Dividend)’ เป็นต้น


แบบที่มาเป็น ธีม (Theme)’ การลงทุนก็มีมาให้เลือกเช่นกัน

  • หุ้นสุขภาพ มีทั้งแบบดั้งเดิมที่เป็น ‘Conventional Healthcare’ และแบบใหม่อย่าง ‘Innovative Healthcare’ ให้เลือกกันตามใจชอบ
  • หุ้นเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเพียวเทคโนโลยี โรโบติกส์ หรือ Disruption แตกไลน์ออกมาเอาใจคนชอบลงทุนแบบโฟกัสกันไปเลย




Top5… ‘
บลจ.ต่างชาติที่พา เงินบาทติดปีกมากสุด


ปัจจุบันกลุ่ม กองทุน FIF’ มีกองทุน 719 กอง (พอๆ กับหุ้นในตลาดหุ้นไทยเลย) มีสินทรัพย์รวมกันกว่า 1.2 ล้านล้านบาท เป็นกลุ่มกองทุนที่มีอายุ (Fix Term)’ กับ กองทุนเปิด ปกติ ประมาณ 50-50 เรียกว่ามีมากมายดั่งดวงดาวบนท้องฟ้ายามราตรี ตาลายจนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว


โดยการจะวาร์ปไปลงทุนในที่ใดในโลกนั้นส่วนใหญ่กว่า 90% จะทำผ่าน กองทุนหลัก (Master Fund)’ ของพันธมิตรซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น บลจ.ต่างประเทศ ที่เข้ามานำเสนอโพรดักต์ให้กับบลจ.ไทยเป็นสำคัญ จึงไม่ต้องแปลกใจถ้ากองทุนหลักที่ไปลงทุนนั้นจะ เหมือนกัน แม้ว่าจะมาจาก ต่างบลจ. ก็ตาม ยกเว้น บลจ.ต่างประเทศ ที่มารุกธุรกิจในไทยตรงนั้นก็สามรถจะวาร์ปผ่านเครือข่ายแม่ของตัวเองไปได้โดยตรงเลย


สำหรับ ‘5 บลจ.ต่างประเทศ ที่บลจ.ไทยขนเงินไปลงทุนด้วยมากที่สุดนั้น ได้แก่

  • ‘PIMCO’
  • ‘BlackRock’
  • ‘JPMorgan’
  • ‘State Street’
  • ‘UOB’


“หลับตาจินตนาการจากเม็ดเงินที่ระดมทุนได้จากบลจ.ไทยทั้ง 5 บลจ.ต่างชาตินี้ ก็ติดทำเนียบบลจ.ขนาดกลางในไทยที่มีสินทรัพย์เกิน 10,000 ล้านบาท มากกว่าบลจ.ไทยขนาดเล็กที่สินทรัพย์ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท อีก 7 บลจ. ล่ะกัน ไม่ธรรมดาจริงๆ ไหนว่าคนไทยไม่มีเงิน ไมน่าจะจริงล่ะแบบนี้ แหล่งขุดทองของบลจ.ต่างชาติเหล่านี้เลยทีเดียว”

 


รูปแบบ และ ผลตอบแทน’…ของกลุ่ม “กองทุน FIF”
      


Infinity Fund” กลุ่มกองทุน FIF นี้ สามารถเปิดประตูมิติวาร์ปไปทั่วทั้งจักรวาลการลงทุนซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นของอัญมณีเม็ดนี้เลย โดยรูปแบบหลักๆ เลยจะอยู่ใน 2 ลักษณะ ได้แก่

  1. ‘Feeder Fund’ ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมสุดในกลุ่มกองทุน FIF คือ ไปลงทุนผ่าน กองทุนหลัก (Master Fund)’ ซึ่งเป็นกองทุนแม่เพียงกองทุนเดียว ไม่น้อยกว่า 80%’ ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน โดย ผู้จัดการกองทุน ของกองแม่ก็จะลงทุนบริหารไปตามนโยบายการลงทุนที่ระบุไว้เป็นสำคัญ
  1. ‘Fund of Funds’ จะต่างกันตรงที่กองทุนปลายทางในต่างประเทศนั้นจะมีหลายกองเท่านั้นเอง


ในยุคหลังมานี้ ก็เป็นพัฒนาการในการวาร์ปของบลจ.ไทย คือ

  1. ลงทุนเองตรงในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไปไม่ไกลตลาดไทยหากเป็น หุ้นรายตัว หรือไปผ่าน กองทุน ETF’ ซึ่งมีทั้งที่ไปเองเต็มรูปแบบก็มี หรือไปเพียงบางส่วน อีกส่วนก็ลงทุนผ่านกองทุนผสมกันไป ก็มีเหมือนกัน


“ส่วน ผลตอบแทน ของกลุ่มกองทุน FIF นั้น จะ มาก หรือ น้อย ขึ้นกับสินทรัพย์ที่ไปลงทุนเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยในเรื่องของ อัตราแลกเปลี่ยน เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”


ปัจจุบันกลุ่ม กองทุน FIF’ ก็จะมีบางกองที่ทำมาให้เลือกเลย ระหว่าง

  • ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedge)’ คือ เน้นลงทุนเอาผลตอบแทนตามนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ปลายทางเป็นสำคัญ ตัดผลกระทบในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนออกไปเลย ซึ่งจะมีการปิดความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ไม่น้อยกว่า 90%’ ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ดังนั้น ค่าเงินบาทจะ อ่อน หรือ แข็ง นักลงทุนไม่ต้องปวดหัว สนใจผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างเดียวพอ ตรงไปตรงมาเลย

  • ไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Unhedged)’ เปิดเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองในเรื่องของ ค่าเงิน ผสมเข้ามาด้วย ก็จะมีทั้งที่ป้องกันความเสี่ยงเพียง บางส่วน (Partial)’ หรือป้องกันความเสี่ยง ตามดุลพินิจ (Discretion)’ เวลาได้ประโยชน์จากค่าเงินก็ไม่ Hedge ถ้าเสียประโยชน์ก็ Hedge หรือไม่ป้องกันความเสี่ยงเลยเป็น ‘Natural Hedge’ ไป


“ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนก็ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศของคุณได้ ทั้งใน ทางบวก และ ทางลบ ใครที่มีมุมมองเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนก็ต้องเข้าใจและรับความเสี่ยงในเรื่องนี้เอาไว้ด้วยเช่นกัน”


ผ่านมาครึ่งทางแล้วสำหรับการตามสะสม “
Infinity Funds” ในครั้งนี้กับกลุ่ม ‘กองทุน FIF’ จะทำให้จักรวาลการลงทุนของคุณครอบคลุมและมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ‘ไม่ถูกจำกัด’ ไว้ในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว กองทุนกลุ่มนี้ในส่วนที่เป็นสินทรัพย์หลัก สามารถถือเป็น ‘Core Port’ ได้เลยทีเดียว